1.วิเคราะห์ตลาด และกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
เช่น อาหารเสริมที่เราต้องการขายนั้นมีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่าไหร มีแนวโน้มอย่างไร ใครเป็นคู่แข่งบ้าง เป็นต้น หลังจากนั้นให้ลองวิเคราะห์ดูว่าใครบ้างที่มีแนวโน้มเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เช่น เพศ อายุ อาชีพเป้นต้น
2.เลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่ได้มาตรฐาน
ให้เลือกโรงงานที่ได้ มาตรฐาน GMP HACCP หรือ ISO ต่าง ๆ และที่สำคัญหากโรงงานมีบริการแบบครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษาก่อนการสร้างแบรนด์ การวิจัยและพัฒนาสูตร การผลิต การจดทะเบียน ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ สต็อกสินค้าและทำการตลาดด้วยก็จะช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายไปได้มาก
3.วิจัยหรือพัฒนาสูตรอาหารเสริมที่ไม่เหมือนใครและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
การพัฒนาและวิจัยสูตรให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นและตรงความต้องการกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่นอกจากจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยให้แบรนด์ของคุณนั้นโดดเด่น ตอบโจทย์และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายด้วย
4.ออกแบบแบรนด์และให้มีความโดดเด่น
สร้างจุดยืนแบรนด์สินค้าให้โดดเด่น โดยใช้กลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งไว้มาออกแบบแบรนด์ให้ตอบโจทย์ตั้งแต่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ อัตลักษณ์อย่างสี โลโก้ ไปตลอดจนถึงการสื่อสาร และการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ว่ามีความแตกต่างและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างไร
5.จดทะเบียนสินค้า และมาตรฐานรับรองสินค้า
การจดทะเบียนก็เป็นอีกกนึ่งช่องทางให้กลุ่มเป้าหมายของเราสามารถจะตรวจสอบทั้งแหล่งที่มาและตรวจสอบว่าสินค้าของ้รานั้นได้มาตรฐานหรือไม่ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคนั่นเอง
6.วางแผนการตลาด และช่องทางการขาย
ระหว่างที่เรารอโรงงานที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเราผลิตสินค้าออกมา ในระหว่างนี้เราสามารถดำเนินการวางแผนการตลาดได้เลยทั้งออฟไลน์ อาทิการเปิดหน้าร้าน การออกอีเวนท์ หรือใช้ช่องทางออนไลน์อย่าง ร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook Twitter Instagram และ Line เป็นต้น ทั้งนี้คุณอาจจะเลือกช่องทางใดช่องทางหนึ่งก่อนก็ได้โดยอิงจากความสนใจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก
Comments